ประเทศไทย: สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ตกเป็นเป้าการลอบสังหาร

ASIAN HUMAN RIGHTS COMMISSION - URGENT APPEALS PROGRAMME

Urgent Appeal Case: AHRC-UAC-023-2015-TH
ISSUES: Administration of justice, Fabrication of charges, Impunity, Inhuman & degrading treatment,

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งอาเซียน (AHRC) ได้ทราบว่าสมาชิกของสหพันธ์เกษตรภาคใต้ (สกต)  ในจังหวัดสุราษฎร์ธานียังคงถูกคุกคามต่อชีวิต   ถึงแม้ว่าจะมีคำตัดสินของศาลให้ทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นผู้ชนะคดีเมื่อห้า เดือนที่แล้ว  โดยได้มีคำสั่งให้บริษัท จิว กัง จุ้ย พัฒนา จำกัด บริษัทปาล์มน้ำมันที่มีเจ้าของเป็นนักการเมืองต้องออกจากพื้นที่ที่พวกเขาได้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย  แต่ว่าในทางปฏิบัติสิ่งนี้ยังไม่เกิดขึ้น    นอกจากนี้ยังปรากฏว่ามีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีฆาตกรรมนายใช้ บุญทองเล็ก  นายใช้ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 ที่บ้านของเขาโดยมือปืนสองคนและนับเป็นสมาชิกคนที่สี่ของสกต ที่ถูกฆาตกรรมในช่วงเวลานี้   ทาง AHRC ยังได้ทราบว่าสมาชิกแกนนำคนอื่นๆ ของสกต ก็มีรายชื่ออยู่ในบัญชีที่จะมีการฆ่า

เนื้อหาของคดี

จากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องได้เพิ่มความกดดันให้กับสมาชิกของสกต  โดยผู้มีอำนาจที่พยายามจะหยุดการทำงานของพวกเขา, การคุ้มครองความปลอดภัยของชุมชนและสิทธิในที่ดินทำกินในประเทศไทย โดยผ่านโฉนดชุมชน

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558 นักข่าวจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 พร้อมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพบกได้เข้าไปที่ชุมชนที่อยู่ใกล้กับชุมชนเพิ่มทรัพย์  จากการนำเสนอข่าวก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าชุมชนดังกล่าวเป็นสมาชิกของชุมชนเพิ่มทรัพย์  ในการออกอากาศของการเข้าชุมชนในครั้งนี้ไม่ได้มีการสัมภาษณ์ชาวบ้านในชุมชนเพิ่มทรัพย์ที่แท้จริงเลยและได้มีการแสดงภาพของกลุ่มคนที่ไม่ได้อยู่ในชุมชนเพิ่มทรัพย์  หนึ่งในภาพที่ออกอากาศคือรูปของนายเพียรรัตน์  บุญฤทธซึ่งเป็นประธานสหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรภาคใต้    นอกจากนี้ทางสกตก็ยังไม่ได้รับโอกาสในการโต้ตอบทางสถานีโทรทัศน์ใดๆ ในประเทศเพื่อตอบข้อกล่าวหาที่ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ได้รายงาน   (https://youtu.be/e66TxR1OxDk) จึงเป็นไปได้ว่าทางสกตไม่สามารถที่จะตอบข้อกล่าวหาต่างๆ ที่เกิดจากการนำเสนอของนักข่าวช่อง 11 และจากทางเจ้าหน้าที่ทหารในการออกอากาศครั้งนั้น

ต่อมาในวันพุธที่ 26 มีนาคม 2558  เวลา 16.00 น.  สมาชิกของสกตสองท่านได้ขับรถออกจากชุมชนคลองไทรพัฒนา, อำเภอชัยบุรี, จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ได้มีรถกระบะสองคันตามประกบหน้าและหลังรถของสมาชิกสกต เพื่อที่จะทำให้รถของสมาชิกสองท่านนั้นหยุด  ต่อมาได้มีชายหนึ่งคนลงจากรถคันหน้าและมองเข้ามาในรถของสมาชิกสกต  ผู้ชายคนนั้นได้แจ้งต่อเพื่อนของเขาในรถทั้งสองคันที่มาด้วยว่า “ไม่ใช่คนนี้” และได้ขับรถออกเพื่อเปิดทางให้รถของสมาชิกสกตผ่านไปได้  ทางสมาชิกสกตเชื่อว่าการหยุดรถของสมาชิกชุมชนในครั้งนี้เพราะว่ารถของสมาชิกชุมชนมีความเหมือนคล้ายกับรถของนายประทีป  ระฆังทอง เพราะมีสีเขียวและเป็นรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ เหมือนกัน  นายประทีปเป็นสมาชิกในคณะกรรมการบริหารของสกต และอาศัยอยู่ในชุมชนคลองไทรพัฒนา  ตามคำบอกเล่าของสกต  สมาชิกในชุมชนคลองไทรพัฒนานั้นอยู่ในความเสี่ยงสูงเพราะพวกเขามีหน้าที่หลักในองค์กรโดยเฉพาะ ซึ่งผู้ที่มีความเสี่ยงเหล่านั้นคือ นายประทีป ระฆังทอง,  นายสุพจน์ กาฬสงค์ , นายธีรเนตร  ชัยสุวรรณ

นอกจากนี้ทาง AHRC ยังได้รับทราบจากทางสกตว่าทางมณฑลทหารบกประจำจังหวัดมีแผนที่จะจัดการประชุมระหว่างชุมชนเพิ่มทรัพย์และบริษัท ไทยบุญทอง จำกัด ในวันที่ 1 เมษายน 2558 นี้  อย่างไรก็ตามทางสกตยังคงยืนยันว่าพื้นที่ที่มีกรณีพิพาททางที่ดินนี้อยู่ในเขตของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งต้องมีการพูดคุยและแจ้งให้กับคณะกรรมการเพื่อการจัดการปัญหาที่จัดตั้งขึ้นโดยเครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมเป็นธรรม (P-MOVE) ที่ 1/2558คณะกรรมการชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2558 โดยสำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีและหน้าที่หลักคือการแก้ปัญหาข้อพิพาทในเรื่องที่ดินและสนับสนุนการมอบโฉนดที่ดินชุมชนให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินของสปกในสุราษฎร์ธานี

ทางชุมชนคลองไทรพัฒนาได้ตั้งข้อสังเกตถึงอาชญากรในพื้นที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธ  โดยคนผู้นี้เป็นผู้มีอิทธิพลในระดับท้องถิ่นและยังเป็นนายหน้าของบริษัทในการซื้อขายที่ดินที่มีกรณีพิพาทและสมาชิกชุมชนยังพบเขาร่วมเดินทางมากับเจ้าหน้าที่ทหารในการเข้าชุมชนคลองไทรพัฒนาในหลายโอกาส

สมาชิกสกตโดยเฉพาะแกนนำที่ถูกหมายหัวฆาตกรรมต้องใช้ชีวิตอยู่ในความหวาดกลัว  การทำร้ายโจมตีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนยังคงมีอย่างต่อเนื่องสาเหตุเพราะการขาดการตรวจสอบสืบสวนจากเจ้าหน้าที่ดังที่เห็นได้จากคดีการถูกสังหารไปแล้วสี่รายของสมาชิกสกตและการที่ไม่สามารถนำผู้กระทำผิดมาลงโทษได้

จากการข่มขู่ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้นักปกป้องสิทธิมนุษยชนในระดับชุมชน โดยเฉพาะ สกตไม่สามารถทำการรณรงค์ในเรื่องสิทธิชุมชนและการทำให้ชุมชนได้รับโฉนดชุมชน  การฆาตกรรมนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐได้ทำการสืบสวนสอบสวนและติดตามคดีการข่มขู่ต่างๆ ที่พวกเขาได้รับอย่างทันท่วงที

เราขอให้พวกท่านร่วมมือ:
กรุณาส่งจดหมายไปยังสำนักงานราชการเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาทำคดีและหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ  โปรดทราบว่าทาง AHRC ได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้เชี่ยวชาญพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติในเรื่องสถานการณ์ของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและเพื่อประชาสัมพันธ์และปกป้องสิทธิในการแสดงออกทางความคิดและการแสดงออกอย่างเป็นอิสระเพื่อเข้าแทรกแซงในเรื่องนี้

To support this case, please click here: SEND APPEAL LETTER

SAMPLE LETTER

เรียน…………………….
ประเทศไทย: การขู่ฆ่าและการไม่สามารถหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษกรณีการคุกคามสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้
ชื่อผู้เสียหาย: สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้แห่งประเทศไทย
ชื่อผู้ก่อการ: ไม่สามารถระบุได้
วันที่เกิดเหตุ:  ตั้งแต่มีนาคม 2558 ถึงปัจจุบัน
สถานที่เกิดเหตุ: ชุมชนคลองไทรพัฒนา, อำเภอชัยบุรี, จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ข้าพเจ้ามีความรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับทราบว่าสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้แห่งประเทศไทยยังถูกขู่ฆ่าในจังหวัดสุราษฎร์ธานี   ถึงแม้ว่าจะมีคำตัดสินของศาลให้ทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นผู้ชนะคดีเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว  โดยได้มีคำสั่งให้บริษัท จิว กัง จุ้ย พัฒนา จำกัด บริษัทปาล์มน้ำมันที่มีเจ้าของเป็นนักการเมืองต้องออกจากพื้นที่ที่พวกเขาได้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย  แต่ว่าในทางปฏิบัติสิ่งนี้ยังไม่เกิดขึ้น    นอกจากนี้ยังปรากฏว่ามีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สวบสวนในคดีฆาตกรรมนายใช้ บุญทองเล็ก  นายใช้ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 ที่บ้านของเขาโดยมือปืนสองคนและนับเป็นสมาชิกคนที่สี่ของสกต ที่ถูกฆาตกรรมในช่วงเวลานี้   

ข้าพเจ้ายังได้ทราบว่าสมาชิกแกนนำคนอื่นๆ ของสกต ก็มีรายชื่ออยู่ในบัญชีการฆ่า   จากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องได้เพิ่มความกดดันให้กับสมาชิกของสกตโดยผู้มีอำนาจที่พยายามจะหยุดพวกเขาจากหน้าที่การงาน, การคุ้มครองความปลอดภัยของชุมชนและสิทธิในที่ดินทำกินในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558 นักข่าวจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 พร้อมกับทหารบกได้เข้าไปที่ชุมชนที่อยู่ใกล้กับชุมชนเพิ่มทรัพย์  จากการเสนอข่าวก่อให้เกิดการเข้าใจผิดว่าพวกเขาเป็นสมาชิกของชุมชนเพิ่มทรัพย์  ในการออกอากาศของการเข้าชุมชนในครั้งนี้ไม่ได้มีการสัมภาษณ์ชาวบ้านในชุมชนเพิ่มทรัพย์เลยและได้มีการแสดงภาพของกลุ่มคนที่ไม่ได้อยู่ในชุมชนเพิ่มทรัพย์   หนึ่งในภาพที่ออกอากาศคือรูปของนายเพียรรัตน์  บุญฤทธิ์ซึ่งเป็นประธานสหกรณ์การเกษตรสหพันธ์เกษตรภาคใต้    นอกจากนี้ทางสกตก็ยังไม่ได้รับโอกาสในการโต้ตอบทางสถานีโทรทัศน์ใดๆ ในประเทศเพื่อตอบข้อกล่าวหาที่ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ได้รายงาน   จึงเป็นไปได้ว่าทางสกตไม่สามารถที่จะตอบข้อกล่าวหาต่างๆ ที่เกิดจากการนำเสนอของนักข่าวช่อง 11 และจากทางเจ้าหน้าที่ทหารในการออกอากาศครั้งนั้น

ต่อมาในวันพุธที่ 26 มีนาคม 2558  เวลา 16.00 น.  สมาชิกของสกตสองท่านได้ขับรถออกจากชุมชนคลองไทรพัฒนา, อำเภอชัยบุรี, จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ได้มีรถกระบะสองคันตามประกบหน้าและหลังของรถสมาชิกสกต เพื่อที่จะทำให้รถของสมาชิกสองท่านนั้นหยุด  ต่อมาได้มีชายหนึ่งคนลงจากรถคันหน้าและมองเข้ามาในรถของสมาชิกสกต  ผู้ชายคนนั้นได้แจ้งต่อเพื่อนของเขาในรถทั้งสองคันว่า “ไม่ใช่คนนี้” และได้ขับรถออกเพื่อเปิดทางให้รถของสมาชิกสกตผ่านไปได้  ทางสมาชิกสกตเชื่อว่าการหยุดรถของสมาชิกชุมชนในครั้งนี้เพราะว่ารถของสมาชิกชุมชนมีความเหมือนคล้ายกับรถของนายประทีป  ระฆังทองเพราะมีสีเขียวและเป็นระกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อเหมือนกัน  นายประทีปเป็นสมาชิกในคณะกรรมการบริหารของสกต และอาศัยอยู่ในชุมชนคลองไทรพัฒนา  ตามคำบอกเล่าของสกต  สมาชิกในชุมชนคลองไทรพัฒนานั้นอยู่ในความเสี่ยงสูงเพราะพวกเขามีหน้าที่หลักในองค์กรโดยเฉพาะ  ซึ่งสมาชิกเหล่านี้ได้แก่นายประทีป ระฆังทอง,  นายสุพจน์ กาฬสงค์ , นายธีรเนตร  ชัยสุวรรณ

นอกจากนี้ข้าพเจ้าก็ยังได้รับทราบจากทางสกตว่าทางมณฑลทหารบกประจำจังหวัดมีแผนที่จะจัดการประชุมระหว่างชุมชนเพิ่มทรัพย์และบริษัท ไทยบุญทอง จำกัดในวันที่ 1 เมษายน 2558นี้  อย่างไรก็ตามทางสกตยังคงยืนยันว่าพื้นที่ที่มีกรณีพิพาททางที่ดินนี้อยู่ในเขตของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งต้องมีการพูดคุยและแจ้งให้กับคณะกรรมการเพื่อการแก้ปัญหาที่จัดตั้งขึ้นโดยเครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมเป็นธรรม (P-MOVE) ที่ 1/2558

คณะกรรมการชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2558 โดยสำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีและหน้าที่หลักคือการแก้ปัญหาข้อพิพาทในเรื่องที่ดินและสนับสนุนการมอบโฉนดที่ดินชุมชนให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินของสปกในสุราษฎร์ธานี

ทางชุมชนคลองไทรพัฒนาได้ออกข้อสังเกตถึงอาชญากรในพื้นที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธ  โดยคนผู้นี้เป็นผู้มีอิทธิพลในระดับท้องถิ่นและยังเป็นนายหน้าของบริษัทในการซื้อขายที่ดินที่มีกรณีพิพาทและยังพบเขามากับทหารในการเข้าชุมชนคลองไทรพัฒนาในหลายโอกาส

สมาชิกสกตโดยเฉพาะแกนนำที่ถูกหมายหัวฆาตกรรมต้องใช้ชีวิตอยู่ในความหวาดกลัว  การทำร้ายโจมตีนักปกป้องสิทธิยังคงมีอย่างต่อเนื่องสาเหตุเพราะการขาดการตรวจสอบสืบสวนจากเจ้าหน้าที่ดังที่เห็นได้จากคดีการถูกทำร้ายของสมาชิกสกตและการที่ไม่สามารถนำผู้กระทำผิดมาลงโทษได้

จากการข่มขู่ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้นักปกป้องสิทธิมนุษยชนในระดับชุมชน โดยเฉพาะ สกตไม่สามารถทำการรณรงค์ในเรื่องสิทธิชุมชนและการทำให้ชุมชนได้รับโฉนดชุมชน  การฆาตกรรมนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐได้ทำการสืบสวนสอบสวนและติดตามคดีการข่มขู่ต่างๆ ที่พวกเขาได้รับ

ข้าพเจ้าขอให้นักสิทธิมนุษยชนทั้งหลายในประเทศไทยได้ร่วมกันเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐของไทยดำเนินการ

1. เรียกร้องให้ศาลประจำจังหวัดกระบี่ออกหนังสือบังคับคดีจากกรมบังคับคดีเพื่อบังคับใช้คำพิพากษาของศาลที่มีต่อบริษัท จิว กัง จุ้ย พัฒนา จำกัดต่อกรณีพิพาทกับชุมชนคลอไทรพัฒนา  โดยการสั่งให้บริษัทคืนที่ดินให้แก่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมซึ่งเป็นเจ้าของที่ถูกต้องในที่ดินนั้น ตามคำพิพากษาของศาลในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2557  สปก ควรที่จะรีบจัดการจัดสรรที่ดินโดยความร่วมมือจากชุมชน
2. เรียกร้องให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ขยายขอบเขตการให้ความคุ้มครองพยานเพื่อปกป้องคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในระดับชุมชน  กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพควรจะทำทุกวิถีทางทั้งในทางกายภาพและจิตวิทยาเพื่อประกันความปลอดภัยให้กับนายประทีป  ระฆังทอง, นายสุพจน์  กาฬสงค์, และนายธีรเนตร  ชัยสุวรรณ, และนายเพียรรัตน์และสมาชิกท่านอื่นๆ ของสกตรวมถึงครอบครัวของพวกเขาและสมาชิกในชุมชนท่านอื่นๆ
3. ยืนยันให้คณะกรรมการเพื่อการจัดการปัญหาโดยเครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม, เลขที่ 1/2558, ที่แต่งตั้งโดยสำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีมีส่วนร่วมในการนำเสนอข้อเรียกร้องของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในที่กินของสปกในจังหวัดสุราษฎร์ธานี   การดำเนินการต่างๆ ควรรวมถึงการทำให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้หยุดกระทำการใดๆ เพื่อก่อให้เกิดข้อขัดแย้ง, หรืออาจจะขัดขวางการดำรงชีวิตของสมาชิกสกตและหยุดการขับไล่ชาวบ้าน
4. กล่าวย้ำถึงหน้าที่ของรัฐบาลไทยในการให้รับรองในความคุ้มครองทางกฎหมายต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่และดำเนินการสอบสวนสืบสวนการข่มขู่หรือการโจมตีต่างๆ ต่อพวกเขาและหยุดผู้ก่อการทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นจากภาครัฐหรือเอกชน

ขอแสดงความนับถือ  

กรุณาส่งจดหมายของท่านไปที่

1 ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี  พลเอก ประยุทธ์ จันโอชา
นายกรัฐมนตรี
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ถนนราชดำเนินนอก
บางขุนพรหม
กรุงเทพ 10200
E-mail: prforeign@gmail.com

2 นางอมรา  พงศาพิชญ์
ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ตึก บี
120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กรุงเทพ 10210
ประเทศไทย
E-mail: amara@nhrc.or.th

3 นายแพทย์ นิรันดร์  พิทักษ์วัชระ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ตึก บี
120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กรุงเทพ 10210
ประเทศไทย
E-mail: niran@nhrc.or.th

4 พลเอก ธนะศักดิ์  ปฏิมาประกร
รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ
กระทรวงต่างประเทศ
ถนนศรีอยุธยา  กรุงเทพ 10400
ประเทศไทย
โทร +66 8 803-5000
โทรสาร +66 2 643-5320+66 2 643-5320, 643-5314
E-mail: minister@mfa.go.th

5 นายจตุเมือง  ชาติภูติ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
จวนผู้ว่าราชการประจำเมือง
สุราษฎร์ธานี 84000
ประเทศไทย
โทรศัพท์  0-7727-2176
โทรสาร  0-7728-5990
โทรศัพท์มือถือ 08-9203-052608-9203-0526
บ้าน 0-7727-2111

6 พลตรี  ปราการ  ชลยุทธ
แม่ทัพภาคสี่
ศูนย์บัญชาการทหารบกภาค 4 
เมือง  นครศรีธรรมราช
ประเทศไทย
โทร + 66 75 383418+ 66 75 383418 ต่อ -40054
E-mail:  pr4army@gmail.com

7 พลตรี เกื้อกูล  อินนาจักร
ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี
สุราษฎร์ธานี
ประเทศไทย
โทร +66 7720 4491+66 7720 4491 (สำนักงาน) +66 08 7270 5804+66 08 7270 5804 (มือถือ)
โทรสาร +66 7720 4491+66 7720 4491

8 พต. อ. ณรัชต์  เสวตนันทน์
อธิบดี
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
120 หมู่ 3 ตึกราชบุรีดิเรกฤทธิ์
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ตึก บี
120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ ทุ่งสองห้อง หลักสี่ กรุงเทพ 10210
ประเทศไทย
โทร +66 2 1412707+66 2 1412707
โทรสาร +66 2 1439660+66 2 1439660
E-mail: savestanan@yahoo.com

Thank you.

Urgent Appeals Programme
Asian Human Rights Commission (ua@ahrc.asia)

Document Type : Urgent Appeal Case
Document ID : AHRC-UAC-023-2015-TH
Countries : Thailand,
Issues : Administration of justice, Fabrication of charges, Impunity, Inhuman & degrading treatment,